สวัสดีทุกคนครับ ^^
แนะนำตัวก่อนเลย ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 6 งานหลักๆของเด็ก ม.6 คือ
การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ตัวเองชื่นชอบให้ได้ ในขณะที่ผมกำลังเขียน Blog นี้อยู่ในเดือนกรกฎาคม ส่วนช่วงของการสอบเข้าจะอยู่ในช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคม
นั่นหมายความว่าเหลือเวลาอีก 6 เดือนในการเตรียมตัว
และอีกอย่างคือผมยังมีโอกาสที่จะสอบเข้าเตรียมทหารอีก 1 ครั้ง
และโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่เปิดรับนักเรียนชาย ม.6 เป็นปีแรก
ซึ่งเป็นความฝันของผมตั้งแต่ ม.1 ทำให้ผมต้องอ่านหนังสือครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่
ม.1-ม.6 เพื่อนๆคงจะจินตนาการได้ถึงความมากมายของเนื้อหาได้นะครับ
><
><
เวลามันผ่านไปเร็วมาก
ทำให้ผมอยากจะชวนเพื่อนๆ ม.6 และ น้องๆ ม.3 , ม.4
ที่จะสอบเข้าทั้งเตรียมอุดม , เตรียมทหาร หรือ มหาวิทยาลัย
มาเตรียมตัวและอ่านหนังสือไปด้วยกันในเวลา 6 เดือนตั้งแต่ตอนนี้ และมาดูกันนะครับว่าระยะเวลา 6 เดือน มันทำให้เราจะพัฒนาไปได้ไกลจนทำให้เราสามารถสอบติดได้หรือเปล่า!!
หลังจากที่ผมได้เกริ่นนำกันมาพอสมควร มาแนะนำสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องมีเป็นอันดับแรกคือ
Day /
Time
|
08.00-16.00
|
16.00-19.00
|
19.00-23.00
|
23.00-24.00
|
Monday
|
เรียน + ฝึกภาษา
|
พักผ่อน
|
เคมี
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Tuesday
|
เรียน + ฝึกภาษา
|
ออกกำลังกาย
|
เลข
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Wednesday
|
เรียน + ฝึกภาษา
|
ออกกำลังกาย
|
เคมี
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Thursday
|
เรียน + ฝึกภาษา
|
ออกกำลังกาย
|
เลข
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Friday
|
เรียน + ฝึกภาษา
|
ออกกำลังกาย
|
ฟิสิกส์
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Saturday
|
เคมี+ฟิสิกส์
|
ออกกำลังกาย
|
เคมี+ฟิสิกส์
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
Sunday
|
เลข
|
ออกกำลังกาย
|
เลข
|
ฝึกภาษา+ทบทวน
|
นี่คือตารางชีวิตประจำวันของผมเองครับ ต้องบอกเลยครับว่าตารางอ่านหนังสือมันสำคัญเป็นอันดับต้นๆของการเตรียมตัวสอบเลยก็ว่าได้เพราะ
มันจะทำให้เราใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าและรู้ว่าวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง
ซึ่งมันดีกว่าอ่านตามอารมณ์แน่นอน ซึ่งจุดสำคัญของตารางก็คือ "เวลาที่เหมาะสม" แต่ละคนมีเวลาเหมาะสมที่ต่างกัน เช่น บางคนอาจจะชอบอ่านตอนเช้ามืด
บางคนชอบอ่านตอนกลางดึก หรือบางคนตอนเย็นต้องช่วยที่บ้านค้าขาย เป็นต้น และอีกหลายอย่างที่ทำให้ตารางของแต่ละคนไม่สามารถทำเหมือนกันได้
เพราะฉะนั้นทุกคนต้องออกแบบเองนะครับ
หลังจากที่เราได้ตารางชีวิตประจำวันที่เป็นลิขสิทธ์ประจำตัวของเรามาแล้ว
จะเห็นได้ว่าเราใส่แค่ชื่อวิชาลงไปมันทำให้เนื้อหามันดูกว้างมากเลยใช่มั้ยล่ะ
นี่แหละครับคือขั้นตอนต่อไปนั่นก็คือ “การตั้งเป้าหมายให้ตัวเองในแต่ละวัน”
ลองคิดดูครับว่าหากเรามีแต่ชื่อวิชา
แต่ไม่ระบุเนื้อหาที่จะอ่านในแต่ละวันเราก็คงจะอ่านไปเรื่อยๆ เวลาเหนื่อยก็พัก
แต่ถ้าเราตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ เช่น “วันนี้เราจะต้องทำโจทย์เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ ให้จบ”
ซึ่งการตั้งเป้าหมายเนี่ยมันไม่ได้มีรูปแบบตายตัวนะครับทุกคนนั้นสามารถออกแบบได้
บางคนอาจจะเอา post-it แปะไว้ที่โต๊ะหนังสือเพื่อใช้เตือนใจ
บางคนอาจทำเป็นตารางในแต่ละวัน ก็ตามแต่ความชอบส่วนบุคคลเลย ^^
เมื่อเรามีทั้ง
2 อย่างนี้แล้วแต่เราไม่ลงมือทำก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรนะครับ
เพราะฉะนั้นไปอ่านหนังสือตามตารางและเป้าหมายที่ออกแบบไว้ด้วยนะครับ
ใน Part ที่ 2
ผมจะมาแบ่งปันประสบการณ์อะไร อย่าลืมรอติดตามกันด้วยนะครับ และทุกคนสามารถแนะนำหรือสอบถามอะไรผมใน Comment ได้เลยย
ผิดพลาดประการใดขออถัยมา ณ ที่นี้ครับ
อย่าลืมอ่านหนังสือกันด้วยนะครับ!!
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น